สังคมไทยจากสังคมที่มีแต่ความเมตตาอารีกลายมาเป็นสังคมที่ใช้แต่ความรุนแรง

            ในสมัยก่อนนั้นเรามักจะได้ยินคนต่างประเทศเรียกเราว่าสยามเมืองยิ้มและคนไทยนั้นมีจิตใจที่โอบอ้อมอารีดังก็เพราะว่าทุกครั้งที่เราเจอหน้าใครแม้แต่ว่าเราจะรู้จักหรือไม่รู้จักก็ตามเรามักจะยิ้มแย้มแจ่มใสให้กันอยู่เสมอในขณะเดียวกันหากเราเห็นใครที่เดือดร้อนและเราสามารถช่วยเหลือได้หลายๆคนก็มักจะยื่นมือไปช่วยเหลือทั้งๆที่อาจจะไม่เคยรู้จักกันเลยก็ตามแต่ในปัจจุบันนี้สังคมไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปจากสังคมที่ มีความเมตตาอารีตอนนี้นั้นกลายเป็นสังคมที่มีแต่ความใช้ความรุนแรง

ดังที่เรามักจะเห็นได้จากข่าวที่เราเห็นกันทุกวันนี้ซึ่งมักจะมีข่าวการทำร้ายร่างกายกันอยู่ทุกวันไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกายจากพ่อแม่ทำร้ายร่างกายรูปหรือจากที่ลูกทำร้ายร่างกายพ่อแม่หรือแม้แต่สามีภรรยาทำร้ายร่างกายกันเองซึ่งบางครั้งคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ยังทำร้ายร่างกายกันจนถึงแก่ความตายก็มีนี่คือสังคมในยุคปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญอยู่การที่อยู่บนท้องถนนแล้วขับรถปาดหน้ากันก็สามารถก่อเหตุฆ่ากันตายได้การที่สามีภรรยาอยู่ด้วยกัน

ทุกวันก็ยังสามารถนอกใจและก่อเหตุฆ่ากันตายได้เพียงเพราะความหึงหวงซึ่งบางครั้งความหึงหวงนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือแม้แต่เป็นเรื่องที่มโนขึ้นมาเองก็แล้วแต่แต่ทุกคนแทบจะไม่ต้องการหาคำตอบว่าเรื่องจริงมันเป็นอย่างไรเพียงแค่คิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะไปคบคนใหม่ก็สามารถที่จะฆ่าคนที่ตนเองรักได้ลงคอนี่คือความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยที่กำลังเป็นอยู่มีหลายข่าวที่เรามักจะเห็นข่าวคู่สามีภรรยาที่คบหากันมานานอยู่ด้วยกันก็เกิดทะเลาะเบาะแว้งกัน

แต่เมื่อเลิกรากันไปแล้วฝ่ายชายอยากจะกลับมาคืนดีกับฝ่ายหญิงและฝ่ายหญิงไม่ยอมคืนดีด้วยก็ใช้ความรุนแรงด้วยการใช้ปืนมายิงให้เสียชีวิตหรือแม้แต่ใช้น้ำกรดมาสาดให้เกิดความเสียโฉมซึ่งการสาดน้ำกรดใส่กันนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นแค่เรื่องเสียโฉมแล้วไม่สามารถไปพบเจอกับชายคนอื่นไปเท่านั้นแต่ชีวิตของคนที่โดนสาดน้ำกรดนั้นพังทลายลงทั้งชีวิต

และสภาพร่างกายของพวกเขานั้นจะไม่สามารถออกมาเผชิญกับโลกภายนอกได้เลยเนื่องจากว่ารูปร่างหน้าตาของเขาจะถูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงกลายเป็นจากคนที่มีความสวยความน่ารักกลับกลายเป็นคนที่มีแต่คนรังเกียจเพราะรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมดังนั้นเราควรจะเปลี่ยนค่านิยมของคนในสังคมไทย

ให้หันกลับมาเป็นคนไทยที่มีความจิตใจดีมีเมตตากรุณาเหมือนเดิมควรใช้หลักธรรมะเข้ามายึดเหนี่ยวจิตใจซึ่งถ้าหากใครเลิกรากันไปแล้วก็ควรที่จะคิดเสียว่าทำบุญด้วยกันมาเพียงเท่านี้ตามหลักของทางพระพุทธศาสนาแต่ไม่ว่าอย่างไรการที่จะโน้มน้าวคนให้หันกลับมากลายเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาในยุคสมัยนี้นั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยากมากเพราะเมื่อสังคมมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้นจิตใจของคนก็ตกต่ำลงเรื่อยๆ

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้าrb88