เสียงปริศนาในถ้ำสุมณฑา 

       บนเทือกเขาภูพานที่พาดผ่านมายังหมู่บ้านผาสุก ที่อำเภอสามหมอจังหวัดอุดรธานี ได้มีท่านศักดิ์สิทธิ์อยู่ท่านหนึ่งซึ่งชาวบ้านต่างก็พากันเชื่อกันว่าทำดังกล่าวนั้นเป็นที่อยู่ของชาวเมืองลับแล เส้นทางแห่งนั้นก็คือถ้ำสุมณฑานั่นเอง

ซึ่งถ้ำแห่งนี้มีประวัติมาอย่างยาวนานหลายร้อยปีมาแล้วและคนเฒ่าคนแก่นั้นก็ทราบประวัติความเป็นมาของถ้ำแห่งนี้ได้กันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว เจอคนเฒ่าคนแก่มีความเชื่อกันว่าภายในถ้ำสุมณฑานั้นจะเป็นถ้ำที่มีประตูมิติที่สามารถเชื่อมต่อระหว่างกาลเวลาได้ โดยมีการเล่าลือกันว่าในช่วงทุกคืนที่เป็นคืนจันทร์เพ็ญนั้นหากใครผ่านมาที่ถ้ำสุมณฑาก็มักจะได้ยินเสียงปริศนาที่เล็ดลอดออกมาจากภายในถ้ำ

ซึ่งหลายคนเชื่อกันว่าภายในถ้ำนั้นน่าจะมีอีกหนึ่งภพภูมิที่อาศัยอยู่และคนธรรมดาทั่วไปจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาธรรมดาของเรา ซึ่งตามความเชื่อของคนในสมัยโบราณเชื่อว่าคนที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำที่เรากำลังพูดถึงนั้นก็คือคนที่อยู่ในเมืองลับแลนั่นเอง สำหรับเรื่องเล่าเมืองลับแลในถ้ำสุมณฑานั้น

คนแก่ได้มีการเล่าถึงเรื่องนี้กันว่าถ้าวันไหนที่เป็นคืนวันเพ็ญมักจะได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดังเล็ดลอดออกมาจากในถ้ำ ซึ่งภาษาของคนที่คุยกันอยู่ภายในถ้ำนั้นเป็นภาษาที่คนธรรมดาทั่วไปฟังแล้วไม่ค่อยรู้เรื่องอาจจะมีเรื่องบ้างเป็นบางคำแต่ส่วนใหญ่นั้นมักจะฟังไม่ค่อยออกว่าเขาคุยกันว่าอะไรโดยชาวบ้านเชื่อกันว่านั่น

คือภาษาครึ่งเทพครึ่งมนุษย์นั่นเองทำให้หลายคนที่เคยได้ยินเสียงพูดคุยและลอดออกมาจากภายในถ้ำต่างก็พากันหวาดกลัว เลิกบางคนก็ได้ยินเสียงมีการแสดงมหรสพพอได้ยินเสียงดนตรีไม่ว่าจะเป็นเสียงฆ้องหรือเสียงแคนดังแว่วออกมาจากภายในถ้ำ เคยมีคนเข้าไปพิสูจน์ว่าเสียงนั้นมาจากจุดไหนของถ้ำ

เพราะอาจจะเป็นไปได้ว่ามีคนเข้าไปอาศัยอยู่ในถ้ำแต่เมื่อหาเท่าไหร่นั้นก็ไม่หาเจอได้ และบางคนก็ได้หรือว่าในช่วงบางคืนที่มีพระจันทร์เดือนเพ็ญนั้นบางทีก็เห็นเป็นแสงสว่างเล็ดลอดออกจากภายในถ้ำมาแม้ไม่มีใครรู้ว่าแสงนั้นเป็นแสงของอะไรกันแน่ สำหรับความเร้นลับของเรื่องภายในถ้ำสุมณฑานั้น เป็นเรื่องที่เล่าขานกันมากันมานมนาน

และถึงแม้ปัจจุบันนี้ก็ยังมีการพูดถึงความเร้นลับของถ้ำสุมณฑากันอยู่โดยมีการเชื่อกันมากว่าที่นี่คือสถานที่ที่เป็นประตูมิติเพื่อที่จะสามารถเดินทางไปยังเมืองลับแลได้นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  rb88