ศิลปะวัยเด็ก

ศิลปะวัยเด็ก ต้องย้อนกลับไปถึงอดีตของเราเมื่อต้นประถมมีวิชาที่ชอบมากๆเลยนะ

ก็คือวิชาศิลปะเป็นวิชาที่ชิวละได้แข่งฝีมือกับเพื่อนในห้อง วัยนั้นอะทุกคนนึกออกกันมั้ยค่ะว่าการแข่งการวัดกับเพื่อนในห้องมันคือที่สุด ใครได้คะแนนเยอะกว่าคือเริศ อาจารย์ชมคือที่สุดแล้ว ตอนเรียนวิชาศิลปะส่วนใหญ่อาจารย์จะเลือกใช้สีน้ำเพื่อให้เราง่ายต่อการระบายเลือกวิธีมาอาจารย์ก็จะบอกหัวข้อของวันนั้นๆก่อน ทำได้เลยก็คือการวาดรูปลงบนกระเป๋าผ้าสีขาว เราวาดรูปอะไรสักอย่างที่มีต้นไม้อยู่ด้วย วาดไปเรื่อยจนเสร็จมาถึงจุดสำคัญคือการลงสีอาจารย์ก็จะเดินวนทุกโต๊ะเพื่อนแนะนำและบอกเทคนิคในนักเรียนตลอด

จังกวะเริ่มลงสีน้ำเราก็เริ่มจะตัวหลักก่อนเลยอาจารย์ก็ผ่านไป จนเราเริ่มจะลงสีต้นไม้อาจารย์เลยเข้ามาหาเราแะบลายเส้นต้นไม้ของเราตอนนั้นเรางงมากว่าเราทำอะไรผิดละวัยนั้นก็กลัวจะถูกดุเอามากๆเลยไม่กล้าที่จะถาม อาจารย์ก็ลบจนสะอาดละค่อยๆบอกเราว่า”นักเรียนไม่ต้องวาดรูปต้นไม้ก็ได้นะลูกเพราะสีมันบางทำให้พอระบายไปมันปิดเส้นของต้นไม้ไม่มิด”หลังจากนั้นเราก็กล้าถามเพราะเห็นว่าอาจารย์ไม่ได้ดุอะไรเราเลย”แล้วหนูต้องทำยังไงค่ะ?” อาจารย์ก็สอนและแนะนำเราดีมาก”ครูจำทำให้ดูนะ”ท่านก็เริ่มทำให้เราดูละค่อยๆสอนเราไปเรื่อยๆ

เราเห็นละรู้สึกทึ่งมากมันสวยละง่ายมากถ้ารับายสีไม่จำเป็นต้องทำให้เป๊ะขนาดนั้น บางอย่างแถบไม่ต้องร่างแบบก็สามารถที่จะระบายลงไปได้เลย เราจำเทคนิคนั้นจนวันนี้มันเป็นความทรงจำที่ดีและเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราชอบวิชาศิลปะนี้ขึ้นมาเยอะมาก พอเข้าระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นก็เริ่มเรียนเรื่องของการแรเงารูปทรงของสิ่งของ ละทุกห้องก็จะต้องเรียนเหมือนกันหมดความรู้สึกแรกที่เห็นคืออยากทำมาก รู้สึกว่าการถือกระดานละมีกระดาษที่วาดรูปหนีบอยู่มีดูดีดูมีอะไรมากๆ ลองที่จะให้ถึงคาบนั้นตลอด

ละวันนั้นก็มาถึงเราได้เรียนวิชานั้นแล้วก็เป็นวันที่ได้ทำงานชิ้นนั้นแล้ว ทุกคนเรารู้สึกอยากร้องไห้มากมันยากมากทุกคนการจะสเก็ตภาพก็งานหินแล้วต้องมาแรเงาอีก มันยากและท่าทายเรามาก เรานั้นทำงานแบบไม่คุยกับใครคิดว่าสวยแล้วเขียนเนียนแล้วแต่ก็ยังไม่ผ่านทำซ้ำไปซ้ำจนท้อเลยอะ ต้องยอมรับว่างานศิลปะเป็นทักษะของแต่ละคนจริงๆ ไม่ใช่ใครจะทำออกมาดีเหมือนกันหมด แต่เราก็ยังชอบวิชานี้นะชอบงานละก็ผลงานของทุกคนมากด้วย

คนจะเห็นผลงานเราได้ยังไง

ศิลปะมีหลายแขนงมากมายทั้งการแสดงอารมณ์ความรู้สึก

หรือแม้แต่ความคิดออกมาผ่านงานภาพเขียนการปั้นการวาดภาพโดยใช้ทุกอย่างที่มีการแสดงออกมานั่นคือศิลปะทั้งสิ้นสุดการสื่ออารมณ์จากผู้ผลิตไปถึงผู้รับสารอาจจะใส่อะไรมาก็ได้เช่นบางครั้งอาจจะใส่ความคิดทางเรื่องสังคมผ่านภาพวาดออกมาก็มีหลายครั้งที่มีศิลปินที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแสดงความรู้สึกความคิดความอ่านออกมาจากทางการวาดภาพออกไปสู่สาธารณชนและมีการจัดแสดงตามสถานที่ต่างๆหรือมีการออกมาประมูลผลงานเหล่านั้นหากไปถูกใจนักสะสมหรือผู้ที่มีความคิดคล้ายๆกันและชอบแนวทางในการปฏิบัติผลงานออกมาภาพวาดเหล่านี้

มีการจัดแสดงที่ไหนหรือว่าทำอย่างไรให้คนได้รู้จักตัวศิลปิน ส่วนใหญ่งานศิลปะต่างๆมีการจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหอศิลปโดยสามารถเข้าไปติดต่อเพื่อรับคิวในการจัดแสดงทั้งบางครั้งมีการเสียค่าใช้จ่ายบางส่วนเช่นค่าน้ำค่าไฟและค่าสถานที่หรือบางครั้งก็มีผู้สนับสนุนทำให้ศิลปินเรานั้นไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆในการจัดแสดงเลยและอีกทีหนึ่งที่สามารถมีผู้พบเห็นงานของเราได้มากมายหากไปจัดแสดงที่นั่นก็คือ หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หรือ the queen’s Gallery  นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ฮอตฮิต

ในการศิลปินต่างๆไปจัดแสดงงาน หอศิลป์ไปสถานที่ท่องเที่ยวของกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบไปเสพผลงานต่างๆของศิลปะหรือแม้แต่จะไปกันไปศึกษางานภาพถ่ายภาพวาดต่างๆเพื่อนำมาพัฒนาผลงานของตัวเอง ไม่เพียงเพราะบุคคลธรรมดาเท่านั้นที่ไปดูผลงานเหล่านี้เพื่อพัฒนาความคิดแต่รวมถึง

นักลงทุนบางคนก็เห็นช่องทางเหล่านี้ในการลงทุนก็ไปซื้อผลงานที่คิดว่าต่อไปจะมีราคาที่สูงมากยิ่งขึ้นเข้ามาเก็บสะสมในแกลอรี่ของตัวเองและเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ออกนำผลงานนี้ออกมาประมูล เช่นอย่างที่มีกระแสสังคมนะก่อนหน้านี้ก็คือเรื่อง พระพุทธรูปอุลตร้าแมนที่มีเด็กนักศึกษานำภาพออกมาตีความและผลิตผลงานออกมาทำให้หลายฝ่ายออกมาถกเถียงกันเรื่องนี้ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่แต่มีบางคนเห็นคุณค่าของงานชนิดจึงซื้อเพื่อเก็บรักษาไว้ตอนที่ซื้อประมูลต่อนั้นมีราคาเพียงแค่หลักพันเท่านั้นแต่ว่าหลังจากมีกระแสสังคมและกระแสวิพากษ์วิจารณ์ราคาก็ได้เพิ่มสูงขึ้น

จนไปถึงหลักล้านในการขายภาพนี้หลายคนออกนำมาประมูลที่ซื้อไว้ทั้งหมดมีอยู่ 3 ภาพจาก 3 บุคคลภาพแต่ละภาพมีราคาที่แตกต่างไปภาพแรกที่เปิดประมูลได้ไปถึงหลักแสนและภาพสุดท้ายก็ไปถึง 5 แสน รวมกันแล้วก็กลายเป็นหลักล้าน นั่นทำให้เห็นว่าคุณค่าของงานอยู่ที่แต่ละกลุ่มหรือบุคคลจะมองเห็นสิ่งนั้นและนำไปเก็บรักษาไว้หรือน้ำออกมาเพื่อเก็งกำไร หากใครที่กำลังผลิตผลงานออกมาสักอย่างอย่ามองหาช่องทางที่ทำให้คนเห็นผลงานของเราณปัจจุบันก็มีแบบฟอร์มมากมายที่รองรับผลงานเหล่านี้เช่น Instagram Facebook  2 ช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ง่ายที่สุดในการที่ให้คนในโลกออนไลน์เห็นผลงานเราและเป็น สถานที่ให้กับศิลปินในการแสดงความคิดเห็นอีกด้วย